ซิน, พงศ์พัทธ์ ธรรมไชย - ประธานนักเรียน
- People of Lamphun
- May 24, 2021
- 1 min read
Updated: May 29, 2021

ซิน,พงศ์พัทธ์ ธรรมไชย, บ้านจำตาเหิน ตำบลทาสบเส้า
“แต่เดิมเป็นคนแม่ทา ตอนนี้มาอยู่กับญาติที่มะเขือแจ้ครับ ปีที่แล้วผมเป็นประธานสี และประธานนักเรียนโรงเรียนจักรคำครับ ปีที่แล้วได้มาช่วยงาน Lamphun River Festival เป็น Staff ส่วนปีนี้น้องๆ เพื่อนๆ ชวนมาช่วยประชาสัมพันธ์ในการแสดงแสงสีเสียงบรรยากาศแห่งความรื่นเริง ณ ริมฝั่งแม่น้ำกวง ครับ”
“ผมมองเห็นว่า สิ่งที่ลำพูนมีไม่แพ้คนอื่น ๆ คือ ประวัติศาสตร์ ที่มีมายาวนานของเรา มีประเพณีที่มีที่เดียวในโลก ผสมผสานกับความสมัยใหม่ ผสมผสานกันออกมาเป็นเมืองที่สมบูรณ์และสวยงาม เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีทุกอย่างครับ สำหรับเด็ก Gen ผมซึ่งเป็น Gen Z ด้วยความที่เทคโนโลยีมันไปเร็วมาก ตัวผมเองก็มองเห็นว่าเด็กลำพูนมีศักยภาพ มีความเก่ง มีผลงานที่ประจักษ์เยอะเลยนะครับ และในฐานะที่เป็นเด็กเอง ผมก็ยินดีมากนะครับที่มีผู้ใหญ่สนับสนุน เพราะว่าการที่มีผู้ใหญ่ให้โอกาสกับเด็ก ๆ เราเลยมีโอกาสที่จะได้แสดงความคิดเห็น แสดงศักยภาพของตัวเอง เพื่อที่จะทำให้คนอื่นได้เห็นว่า เราก็ไม่ใช่แค่เด็กที่อยู่แต่ในโรงเรียน อย่าง พ่อแม่ของผมเองปีก่อนยังไม่เห็นว่าเราทำอะไร เพราะเราให้เวลา ให้แรงกับตรงนี้มาก กลับบ้านดึก แต่พอได้พูดให้เขาฟัง ให้เขาเห็น เขาก็ยอมรับได้”
“สำหรับงานลอยกระทงปีนี้ ผมก็รู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างจากปีก่อนนะครับ ผมรู้สึกว่าปีนี้ผมรู้สึกว่างานใหญ่ขึ้น มีความครึกครื้นมากขึ้น มีหลายโซน มีหลายเพลง มีพัฒนาการมากขึ้นครับ การได้อยู่เบื้องหลังทำให้ผมได้รู้ถึงเบื้องหลังการทำงานกว่าจะออกมาอยู่บนแผ่นสคริปต์ให้เราอ่าน มันต่างจากการทำประชาสัมพันธ์ในโรงเรียนที่เรากดไมค์เราก็พูดเองเลย แต่นี่เราต้องรอเขาบอกจังหวะ 5 4 3 2 1 และก็อยู่ในสถานที่มีสิ่งรบกวนเข้ามาได้ง่ายด้วยครับ เช่นตรงโน้นุดประทัด ตรงนี้มีคนพูดกัน ผมก็ต้องมีสติให้ทัน รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรต่อไป ”
“การทำงานในโรงเรียน เราทำงานแค่ในองค์กรของเรา แต่งานนี้เราทำงานร่วมกับเพื่อนๆ น้องๆ สี่สถานบัน รวมถึงมีองค์กรที่สนับสนุนเราอีก การที่เราได้มาทำงานด้วยกัน เรามาแบ่งปันกัน มาแชร์ประสบการณ์กัน และยังได้เพื่อนใหม่ ถ้าไม่ได้ทำงานตรงนี้เราก็ไม่ได้รู้จักเพื่อนกลุ่มอื่นๆ เราอาจจะมาเดินงานลอยกระทงแค่กับเพื่อนในโรงเรียนของเราเท่านั้น ส่วนที่เด่นคืออยู่ตรงนั้นครับ”
“ในอนาคต ผมมีความเชื่อมั่นว่าเด็กที่เกิดในลำพูน อยู่ในเมืองที่มีวัฒนธรรมายาวนาน ก็ค่อยๆซึมซับสิ่งเหล่านี้ไปในตัวแล้ะคงจะเผยแพร่ไปในแนวทางของเขาได้ครับ ส่วนตัวผม ถ้าโตขึ้น เรียนจบแล้ว ทุก ๆ ครั้งที่มีโอกาสผมก็ยินดีที่จะกลับมาช่วยงานที่ลำพูน เพราะว่าเป็นความผูกพันธ์ของตัวผมเองว่าครั้งหนึ่งผมเคยได้ทำงานตรงนี้ มีความสัมพันธ์ มีความรู้สึกที่ดีกับคนกับเมือง เวลาไปข้างนอกเราเห็นคน เห็นวัฒนธรรมของเขา ผมก็คงคิดถึงลำพูน อยากกลับมา อยากให้คนอื่นได้มาด้วยครับ”

Comments